เลือกสินค้าอย่างไรให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ?
01 Apr, 2014 / By
belle
การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ประสบความสำเร็จนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งก็คือการรู้ว่าควรจะขายสินค้าอะไร
การหาสินค้าที่ดีเพื่อนำไปขายนั้น ถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างผลกำไรและทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้น
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำแนวทางการพิจารณาสินค้าที่คุณจะนำมาขายในร้านค้าอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณประสบความสำเร็จตามที่คุณคาดหวังไว้
1. ตลาดสินค้ามีขนาดเท่าไหร่?
คุณควรที่จะเลือกตลาดสินค้าที่ไม่แคบและกว้างมากจนเกินไป พยายามเลี่ยงสินค้าที่มีคนค้นหาน้อยมากหรือแทบไม่มีใครค้นหาเลย ตัวอย่างเช่น สินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายคือคนท้องอายุระหว่าง 25-40 ปี ซึ่งถือว่าเป็นตลาดสินค้าที่เจาะกลุ่มเป้าหมายขนาดกลาง ไม่กว้างหรือแคบเกินไป
แต่ถ้าสินค้าชนิดนั้นเจาะกลุ่มคนท้องอายุ 25-40 ปี และเฉพาะเจาะจงลงไปอีกว่าต้องเป็นคนที่ชอบฟังเพลงเท่านั้น จะทำให้เกิดความยากในการขายสินค้า เพราะมีกลุ่มเป้าหมายที่แคบเกินไป ส่งผลให้หาลูกค้าได้ยาก และยังจำกัดโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นอีกด้วย
2. คู่แข่งคือใคร?
ปริมาณการแข่งขันในตลาดสินค้าของคุณเป็นอย่างไร? คุณไม่มีคู่แข่งเลย มีบ้างหรือว่ามีเยอะมาก?
ถ้ามีคู่แข่งจำนวนมากในตลาดสินค้าของคุณ ก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าคุณอาจจะแข่งขันในตลาดนี้ได้ยากกว่าเดิม หากคุณอยากจะเจาะกลุ่มสินค้าประเภทนี้จริงๆ คุณอาจจะต้องทำอะไรสักอย่างที่แตกต่างออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าและสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดได้
3. สินค้าหาซื้อได้ทั่วไปไหม?
ถ้าสินค้าของคุณหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ก็คงไม่มีเหตุผลที่ลูกค้าจะต้องหาซื้อสินค้าเหล่านั้นทางออนไลน์ ตัวอย่างเช่น หากคนต้องการจะซื้อสบู่ก้อน พวกเขาก็แค่ออกไปที่ร้านสะดวกซื้อหรือมินิมาร์ทก็สามารถหาซื้อได้แล้ว
ถ้าคุณเลือกที่จะขายสินค้าประเภทนี้ คุณควรต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้สินค้าของตัวเองแตกต่างจากสินค้าทั่วไป และคุณจะโน้มน้าวใจลูกค้าให้ซื้อสินค้าของคุณทางออนไลน์ได้ไหม? คุณมีทางเลือกที่ดีกว่าหรือเปล่า? หรือสินค้าของคุณมีคุณภาพสูง และราคาถูกกว่าไหม?
4. กลุ่มเป้าหมายคือใคร?
ในข้อนี้ คุณไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดในเชิงลึก เพียงแต่ต้องเข้าใจในกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการขายและความเป็นไปได้ในการซื้อของออนไลน์ของพวกเขา
ถ้าคุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กวัยรุ่น คุณก็ควรที่จะพิจารณาว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะไม่มีบัตรเครดิต ซึ่งคุณก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเสนอวิธีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตให้พวกเขาก็ได้ หรือหากคุณเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยชำนาญเรื่องเทคโนโลยี คุณก็ควรที่จะปรับร้านค้าออนไลน์ของคุณให้เหมาะสม เพื่อที่พวกเขาจะได้ซื้อสินค้าง่ายขึ้น
5. สินค้ามีความทนทานแค่ไหน?
สินค้าที่คุณคิดจะขายนั้นเปราะบางมากหรือไม่? สินค้าที่มีความเปราะบางอาจจะสร้างปัญหาให้คุณได้
สินค้าประเภทที่แตกหักง่ายจะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องการขนส่ง/ค่าพัสดุมากกว่าปกติ และมีโอกาสที่สินค้าของลูกค้าจะเสียหายด้วย ถึงแม้ว่าความเสียหายอาจเกิดมาจากการขนส่ง แต่ก็ย่อมจะส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าอยู่ดี เพราะไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็จะคิดว่าสินค้านั้นอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ
สินค้าที่คุณเลือกนำมาขายถือเป็นใจกลางของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ และเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องพิจารณา
การใช้แนวทางดังที่กล่าวไว้ข้างต้นจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสินค้าที่คุณคิดจะนำมาขายได้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดความสำเร็จในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซอีกด้วย