การได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองถือเป็นความฝันของใครหลายๆคน และในยุคสังคมสมัยใหม่นี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองโดยการเริ่มต้นขายของออนไลน์

ทำไมการขายของออนไลน์ถึงเป็นที่นิยมมากขึ้น?

เพราะการขายของออนไลน์มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น:

• ต้นทุนน้อย เริ่มต้นทำได้เพียงไม่กี่พันบาท
• ขายของออนไลน์ได้ตลอดทั้งวัน ไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและสถานที่
• ไม่ต้องจ้างแรงงานมาช่วย เพราะสามารถขายได้ด้วยตัวเอง ทั้งในรูปแบบงานประจำและงานเสริม
• ไม่ต้องกลัวของหาย เพราะไม่ต้องมีหน้าร้านโชว์สินค้าเหมือนกับร้านค้าทั่วไป
• ไม่ต้องเสียค่าตกแต่งร้านค้าราคาแพง
• ไม่ต้องสต๊อคสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อการขาย หรือแม้กระทั่งไม่ต้องสต๊อกสินค้าเลยก็ยังสามารถขายได้ (Pre-Order, Dropship)

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงได้หันมาให้ความสนใจกับการขายของออนไลน์กันมากขึ้น แต่ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับเหล่านักขายมือใหม่ก็คือ การไม่มีความรู้เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์ ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไรบ้าง

TakraOnline มีคำตอบให้กับคุณ หากคุณเป็นนักขายหน้าใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร หรือเริ่มต้นจากตรงไหน ลองมาดู 7 ข้อที่คุณควรคำนึงถึงก่อนเริ่มต้นขายของออนไลน์

1.การเลือกสินค้า

การเลือกสินค้าที่เหมาะสมถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการขายของออนไลน์ เพราะสินค้าเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้คนเข้ามาในเว็บขายของออนไลน์ของคุณ หากคุณมีสินค้าที่น่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ก็จะทำเว็บขายของออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น การเลือกสินค้านั้นดูจะเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับนักขายมือใหม่หลายๆคน เพราะสินค้าในท้องตลาดมีอยู่มากมายหลายประเภท ซึ่งสินค้าแต่ละประเภทก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป

หากคุณคิดว่าการเลือกสินค้าทำให้รู้สึกสับสน คุณอาจจะเริ่มต้นเลือกจากสิ่งใกล้ตัวคุณก็ได้ เช่น สินค้าจากงานอดิเรก หรือสิ่งที่คุณสนใจ เพราะการได้ทำในสิ่งที่ชอบจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและมีกำลังใจในการขายมากขึ้น หรือหากคุณมีฝีมือในการทำงานประดิษฐ์ต่างๆ เช่น ถักตุ๊กตา หรือทำเครื่องประดับ คุณก็สามารถเลือกที่จะขายผลงานของตัวเองได้ นอกจากจะใช้ต้นทุนน้อยเพราะไม่ต้องไปซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกโดยตรงแล้ว สินค้าของคุณยังมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับคนอื่นอีกด้วย

แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ได้สนใจสิ่งไหนเป็นพิเศษและประดิษฐ์สิ่งของไม่เป็น คุณอาจจะเลือกขายสินค้าที่เป็นที่นิยม ที่คุณมั่นใจว่าเป็นที่ต้องการของคนกลุ่มใหญ่ เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า และสินค้าอิเลคทรอนิกส์

สิ่งสำคัญก็คือ คุณควรจะเลือกขายสินค้าที่ไม่มีขนาดใหญ่จนเกินไป หรือเปราะบางจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ยากต่อการขนส่ง หรือเสียหายในระหว่างการขนส่งได้

2.งบประมาณ

ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจแบบใด ต้นทุนก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกๆ คุณต้องวางแผนและกำหนดงบประมาณให้พร้อมว่าคุณต้องใช้มันไปกับเรื่องอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ขาดเงินทุนหมุนเวียนในเว็บขายของออนไลน์ของคุณ เช่น หากคุณเป็นผู้ผลิตโดยตรง คุณก็ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการผลิตสินค้า หรือถ้าไม่ใช่ คุณก็ต้องเตรียมงบไว้สำหรับการซื้อสินค้าจากร้านขายส่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา โปรโมตเว็บขายสินค้าออนไลน์ และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

3.การเลือกเว็บขายของออนไลน์

หากคุณไม่มีความรู้ด้านการทำเว็บไซต์ ไม่เข้าใจเรื่องโฮสติ้ง โดเมนว่าคืออะไร หรือไม่อยากจ้างโปรแกรมเมอร์มาช่วยทำเว็บไซต์เพราะค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป คุณก็สามารถเลือกเว็บขายของออนไลน์พร้อมใช้ได้ การเลือกเว็บขายของออนไลน์ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่น เพราะการที่คุณมีเว็บขายของออนไลน์ที่เหมาะสม จะทำให้การค้าขายของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด เว็บขายของออนไลน์ที่ดี นอกจากจะมีความเสถียร ใช้งานง่ายแล้ว ก็ควรจะมีคุณสมบัติและเครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้การขายของออนไลน์ของคุณสะดวก ง่ายดาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณสามารถดูบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเลือกเว็บขายของออนไลน์ได้ที่

www.takraonline.com/เว็บขายของ.aspx

4.การวางแผนการตลาดออนไลน์

เมื่อคุณมีสินค้าและเว็บขายของออนไลน์ที่พร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว สิ่งที่คุณควรจะคำนึงถึงเป็นอันดับต่อไป ก็คือ แผนการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อที่คนจะได้รู้จักเว็บขายของออนไลน์ของคุณ ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสที่เว็บขายของออนไลน์ของคุณจะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น

การทำการตลาดออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกใช้ ทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและไม่เสียค่าใช้จ่าย วิธีการที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ได้แก่ การสร้าง Facebook Page เพื่อโปรโมทสินค้าหรือติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและแฟนเพจ การทำ SEO ในหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสติดหน้าแรกใน Google การโพสต์โปรโมทเว็บขายของออนไลน์ตามเว็บบอร์ด หรือฟอรั่มต่างๆ และการเพิ่มบทความที่มีประโยชน์ลงในบล็อกเพื่อเรียกผู้เข้าชม วิธีการที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายได้แก่ การลงแบนเนอร์โฆษณาตามเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ หรือการลงโฆษณากับ Google ด้วยการทำ Google Adwords เป็นต้น

5.ช่องทางการชำระเงิน

การมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกการชำระเงินในรูปแบบที่พวกเขาสะดวกได้ รูปแบบที่เจ้าของธุรกิจมักเลือกใช้กันก็คือ การชำระเงินผ่านการโอนเงิน ซึ่งก็มีหลายรูปแบบให้เลือกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่านเค้าน์เตอร์ธนาคาร การโอนเงินผ่านตู้ ATM และการโอนเงินผ่าน Internet Banking หรือหากต้องการเพิ่มช่องทางโดยการให้ลูกค้าชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ด้วยนั้น คุณก็สามารถใช้บริการกับผู้ให้บริการรับชำระเงินอย่าง PayPal ซึ่งเป็นบริการที่สะดวก และเชื่อถือได้ ปลอดภัยทั้งฝ่ายผู้รับเงินและผู้ชำระเงิน หรือถ้าต้องการเพิ่มช่องทางอื่นๆนอกเหนือจากนี้ คุณก็สามารถเลือกใช้วิธีเก็บเงินปลายทางจากผู้รับเมื่อของส่งไปถึงแล้วได้เช่นกัน วิธีนี้จะทำให้ผู้รับมั่นใจได้ว่า พวกเขาจะได้รับของที่ตัวเองต้องการจริงๆก่อนทำการชำระเงิน

6.ช่องทางการจัดส่ง

ช่องทางการจัดส่งที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นที่นิยมที่สุดก็คือ การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีให้เลือกทั้ง การส่งพัสดุธรรมดา การส่งแบบลงทะเบียน และการส่งแบบ EMS คุณสามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้จากหมายเลขติดตามพัสดุ (Tracking Number) อีกด้วย

แต่ถ้าหากว่าสินค้าที่คุณขายมีขนาดใหญ่มาก คุณก็อาจจะต้องเลือกใช้บริการจากบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน อย่างDHL หรือ FedEx ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าการส่งผ่านไปรษณีย์ไทย

7.บริการหลังการขาย

การมีบริการหลังการขายที่ดีเป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่ต่างจากการให้บริการก่อนการขาย หากเว็บขายของออนไลน์ของคุณมีบริการหลังการขายที่ดี ก็จะสามารถสร้างความพอใจให้กับลูกค้าได้ ซึ่งอาจจะทำให้พวกเขาประทับใจและกลับมาซื้อสินค้าในเว็บขายของออนไลน์ของคุณมากขึ้น คุณควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการตอบข้อสงสัยต่างๆของลูกค้าและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาซื้อสินค้าไปแล้ว รวมถึงการเตรียมช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้พวกเขาได้เลือกช่องทางที่เหมาะกับพวกเขาที่สุดด้วย เช่น โทรศัพท์ อีเมล Facebook Line Instagram หรือ Live Chat