E-Commerce คืออะไร?

ความหมายของ E-commerce (อีคอมเมิร์ซ) หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า ‘พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์’ นั้น ก็คือการดำเนินธุรกิจโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการขายสินค้าและบริการผ่านทางระบบออนไลน์นั่นเอง

แต่ E-commerce ไม่ได้จำกัดความอยู่แค่การที่เจ้าของร้านค้าออนไลน์ร้านหนึ่งขายสินค้ากหรือบริการให้กับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ E-commerce ยังแบ่งออกได้ถึง 5 ประเภท ตามหัวข้อที่จะอธิบายดังต่อไปนี้

ประเภทของ E-Commerce

1.ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C)

B2C คือการค้าขายจากผู้ค้าโดยตรงถึงลูกค้า เช่น การที่เป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์และขายสินค้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือเครื่องสำอาง เป็นต้น

2.ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B)

B2B คือการค้าขายจากผู้ค้าถึงผู้ค้าด้วยกัน อธิบายง่ายๆก็คือ การที่มีเจ้าของร้านขายส่งขายสินค้าให้กับผู้ค้าปลีก ซึ่งผู้ค้าปลีกรายนั้นก็จะนำสินค้าไปขายต่อให้กับผู้บริโภคต่อไป

3.ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C)

C2C คือการติดต่อจากผู้บริโภคถึงผู้บริโภค C2C นั้นมีหลายรูปแบบ เช่นการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับสินค้าที่ได้ซื้อไป หรือการขายสินค้ามือสองให้แก่กันและกัน เป็นต้น

4.ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ (Business to Government – B2G)

B2G คือการทำธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ส่วนมากจะเป็นการจัดซื้อหรือจัดจ้างของภาครัฐ หรือสำหรับบางประเทศที่ E-commerce มีความก้าวหน้าแล้ว รัฐบาลก็จะทำการซื้อหรือจ้างผ่านระบบออนไลน์ เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า

5.ภาครัฐ กับ ประชาชน (Government to Consumer -G2C)

สำหรับภาครัฐกับประชาชนจะไม่เกี่ยวกับเรื่องการค้า แต่จะเป็นเรื่องของการที่ภาครัฐบริการประชาชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างของบริการแบบนี้ เช่น การยื่นเสียภาษีประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต วิธีนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางหรือหยุดงานเพื่อไปเสียภาษีด้วยตัวเอง