×
หน้าหลัก>ข่าวสารธุรกิจออนไลน์>จับตาเอเชีย สู่แชมป์สนามอีคอมเมิร์ซโลก
จับตาเอเชีย สู่แชมป์สนามอีคอมเมิร์ซโลก
จับตาเอเชีย สู่แชมป์สนามอีคอมเมิร์ซโลก
25 Jul, 2014 / By belle
Images/Blog/0501138-จับตาเอเชีย.jpg

โดย : อุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล

จากการวิเคราะห์ของ eMarketer.com การใช้จ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซมากกว่าอเมริกาเหนือ เนื่องจากการขยายตัวของออนไลน์ และการใช้มือถือ โดยคาดการณ์กันว่าสัดส่วนยอดขายน่าจะมาจากประเทศจีนมากถึง 60% โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข่าวความเคลื่อนไหวของการเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มอาลีบาบา ดูจะร้อนแรงขึ้นทุกขณะ

มีการประเมินมูลค่าตลาดว่าอาจสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ และสูงกว่าเฟซบุ๊คที่เข้าเทรดในปี 2555

จุดแข็งด้วยโมเดลธุรกิจและบริการที่แข็งแกร่งของอาลีบาบาที่สามารถให้บริการอีคอมเมิร์ซชั้นแนวหน้าทั้งในลักษณะ C2C ผ่าน taobao.com และ B2C ผ่าน tmall.com รวมถึงระบบเสิร์ชที่ทันสมัย และระบบการชำระเงินออนไลน์ผ่าน Alipay จึงทำให้อาลีบาบาก้าวขึ้นเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซระดับโลก

eMarketer.com วิเคราะห์ว่าการใช้จ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 20.1% ในปีนี้ คิดเป็นยอดเงินถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญ โดยตัวเลขการใช้อีคอมเมิร์ซ (B2C) ในเอเชียแปซิฟิกจะสูงถึง 525,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นนำอเมริกาเหนือที่มีตัวเลขอยู่ที่ 482,000 ล้านดอลลาร์ เป็นผลจากการขยายตัวของออนไลน์ และการใช้มือถือในตลาดเอเชีย โดยประมาณว่าสัดส่วนยอดขายมากถึง 60% มาจากจีน

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจาก Statista ที่ระบุว่าเอเชียแปซิฟิกจะมีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซมากที่สุด โดยในปีนี้ จีนจะเป็นผู้นำของการซื้อสินค้าออนไลน์ของโลก ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตถึง 63.8% ตามด้วยอินเดีย ที่ 31.5% ส่วนสหรัฐอยู่ที่ 11.8% และญี่ปุ่นที่ 7.1% แข่งขันต่อเนื่อง

ล่าสุด กลุ่มอาลีบาบาได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 60% ของบริษัท ChinaVision Media ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ของฮ่องกงและจีนด้วยจำนวนเงิน 804 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่คู่แข่งรายสำคัญคือ Tencent.com ก็ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 15% คิดเป็นเงิน 215 ล้านดอลลาร์ จาก JD.com ในเดือนมี.ค.นี้เช่นกัน

ข่าวการขยายบริการของกลุ่มอาลีบาบามีอย่างต่อเนื่อง เช่น ปีที่แล้วเข้าถือหุ้น 18% หรือคิดเป็นเงินกว่า 586 ล้าน ดอลลาร์กับบริษัท Sina.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Weibo ไมโครบล็อกที่ทำงานคล้ายกับทวิตเตอร์ผนวกกับเฟซบุ๊ค และในเดือนที่แล้ว ก็ได้เข้าถือหุ้น 28% ใน AutoNavi ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแผนที่บนมือถือ พร้อมทั้งมีแผนที่จะขยายบริการเกมส์ออนไลน์ต่อไปอีก

การขยายธุรกิจและบริการของยักษ์ใหญ่ออนไลน์เหล่านี้ ก็เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถจับกลุ่มลูกค้าออนไลน์ผ่านอีคอมเมิร์ซ โซเชียลและเกมส์ นับเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดไม่แพ้ในอเมริกา

อินเดียเดินตามรอย

ในขณะที่จีนมียอดใช้จ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ อินเดียก็มีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง และอาจมีตัวเลขไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ถึงแม้ว่ารายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการท่องเที่ยวมากกว่าการซื้อสินค้า เช่น การซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองห้องพักโรงแรมออนไลน์ แต่ตลาดอีคอมเมิร์ซในอินเดียก็มีการปรับตัวการให้บริการและการเรียนรู้ของผู้บริโภคขึ้นอย่างมาก

การเติบโตของอีคอมเมิร์ซในอินเดีย มีความคล้ายกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับตลาดอีคอมเมิร์ซจีนค่อนข้างมาก นับตั้งแต่จำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น และระบบอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงได้ดีขึ้น ตลอดจนอุปสรรคสำคัญจากจำนวนผู้ถือเงินฝากบัญชีธนาคาร ที่มีผลให้โอกาสในการชำระเงินออนไลน์เกิดขึ้นได้เพียง 1% ของยอดการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอยู่ถึง 450,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงความไม่มั่นใจต่อการชำระเงินผ่านออนไลน์ของชาวอินเดีย ทำให้การชำระเงินกว่า 50% เป็นชำระด้วยเงินสดและเก็บเมื่อมีการส่งสินค้าถึงมือผู้รับ

ในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว อีเบย์ (eBay.com) ได้เข้าร่วมทุนกับเว็บท่าอีคอมเมิร์ซ snapdeal.com ในอินเดีย ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2553 และมีสมาชิกกว่า 18 ล้านคน โดยผู้บริหารเว็บไซต์มีความเข้าใจถึงการปรับปรุงการให้บริการ และการนำเอาตัวอย่างเว็บท่าที่มีชื่อเสียงของกลุ่มอาลีบาบาอย่าง taobao.com มาใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อสินค้าผ่านเว็บท่า

ตั้งแต่เรื่องของการสกรีนและให้เรทติ้งกับร้านค้า การส่งคืนสินค้าภายใน 7 วันหากไม่ตรงกับความคาดหวัง รวมถึงการพัฒนาระบบการชำระเงินออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและสร้างประวัติกับเว็บท่า ซึ่งเชื่อว่าไปได้ในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะเมื่อปีที่แล้ว snapdeal.com สามารถทำยอดขายผ่านเว็บท่าเป็นเม็ดเงินถึง 500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ของยอดขายในปีก่อนหน้านี้ นับเป็นตัวเลขการเติบโตที่ท้าทายของอีคอมเมิร์ซจากอินเดีย และก็ทำให้คู่แข่งอย่าง amazon.com และกลุ่มอาลีบาบาต้องเร่งกลยุทธ์ในตลาดนี้เช่นกัน

นอกเหนือจากจีนและอินเดียแล้ว อินโดนีเซียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซเมอร์กำลังแรงขึ้นต่อเนื่อง ด้วยจำนวนประชากรที่มีรายได้สูงขึ้นและความนิยมในโลกโซเชียลเป็นอันดับ 4 ของโลก

ช่องทางอีคอมเมิร์ซและออนไลน์จึงอาจเป็นโอกาสในการขยายกลุ่มลูกค้าสำหรับแบรนด์หรือผู้ผลิตในเมืองไทยซึ่งไม่ควรถูกมองข้าม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรุงเทพธุรกิจ

www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/uraiporn/20140328/571747/จับตาเอเชีย-สู่แชมป์สนามอีคอมเมิร์ซโลก.html

Like

สร้างเว็บไซต์ให้ธุรกิจ

ทำการตลาดออนไลน์เพิ่มยอดขาย

สนใจรับคำแนะนำบริการ
เพิ่มเพื่อนในไลน์

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ลูกค้าใหม่

ร้านค้าออนไลน์
© 2006-2024
Vevo Systems Co., Ltd.